About pkfurniture admin

This author has not yet filled in any details.
So far pkfurniture admin has created 21 blog entries.

Built-In Furniture VS Loose Furniture

By |2021-09-23T13:29:57+07:00October 28th, 2021|รู้ไว้ใช่ว่า ใส่บ่าแบกไม้|

เฟอร์นิเจอร์คือของตกแต่งบ้านอย่างหนึ่งที่มีความจำเป็นในชีวิตประจำวัน แม้ว่าจะเป็นเครื่องตกแต่งบ้านของคุณให้ดูสวยงาม แต่ในอีกแง่หนึ่ง เฟอร์นิเจอร์ก็คือเครื่องมือเครื่องใช้อย่างหนึ่งที่มีความสำคัญมากในการทำให้บ้านของคุณดูเป็นระเบียบอย่างยิ่ง เฟอร์นิเจอร์ที่เราใช้ในชีวิตประจำวันอย่างง่ายๆ นั้น ถ้าแบ่งตามรูปแบบการติดตั้ง ก็จะสามารถแบ่งได้ 2 แบบคือ เฟอร์นิเจอร์ลอยตัว (Movable Furniture) เฟอร์นิเจอร์บิวท์อิน (Built-In Furniture) ______________________________ เฟอร์นิเจอร์ลอยตัว (Movable Furniture) เป็นเฟอร์นิเจอร์ที่มีลักษณะลอยตัวเป็นชิ้น โดยปกติแล้วจะใช้งานอยู่กับที่ แต่ผ่านการออกแบบและผลิตจากโรงงาน จากนั้นจึงนำมาติดตั้งที่หน้างานได้ทันที โดยอาจจะมีการเก็บสีหรือรายละเอียดเพียงเล็กน้อย เฟอร์นิเจอร์ชนิดนี้สามารถเคลื่อนย้ายเพื่อนำไปติดตั้งที่อื่นได้ง่ายโดยไม่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อตัวเฟอร์นิเจอร์ ซึ่งก็มีหลายชนิดให้เลือกใช้งานกันอย่างเช่น โต๊ะ เก้าอี้ ตู้ เตียง เป็นต้น ______________________________ เฟอร์นิเจอร์แบบบิวท์อิน หรือ Built-In Furniture เฟอร์นิเจอร์แบบบิวท์อิน หรือ Built-In Furniture เป็นเฟอร์นิเจอร์ที่ออกแบบมาให้เข้ากับธีมของสถานที่ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นบ้าน คอนโดมิเนียม ร้านอาหาร ออฟฟิศ เป็นต้น เฟอร์นิเจอร์ประเภทนี้จะมีความแตกต่างจากเฟอร์นิเจอร์แบบลอยตัวโดยสิ้นเชิงคือ ไม่สามรถเคลื่อนย้ายได้ เฟอร์นิเจอร์แบบบิวท์อินจะติดตั้งแบบประจำที่

ยางพารา: จากเมืองใต้สู่อีสาน

By |2021-09-23T13:09:09+07:00October 21st, 2021|หลากไม้นานาพรรณ|

ยางพารา เป็นไม้ยืนต้นสูงประมาณ 30-40 เมตร ต้นอ่อนเจริญเร็วมากทำให้เกิดช่วงปล้องยาว เมื่ออายุน้อยเปลือกสีเขียว แต่เมื่ออายุมากขึ้นสีของเปลือกเปลี่ยนเป็นสีเทาไปจนถึงน้ำตาล ยางพาราแต่เดิมนั้นพระยารัษฎานุประดิษฐ์มหิศรภักดี (คอซิมบี้ ณ ระนอง) เป็นผู้นำมาปลูกต้นแรกในจังหวัดตรัง จากนั้นก็เริ่มได้รับความนิยมไปทั่วปักษ์ใต้ ในสมัยหลังจึงมีการปลูกในภาคตะวันออกและภาคอีสานด้วย ยางพาราเป็นไม้โตเร็วที่นิยมนำมาใช้ทำได้หลายอย่าง ทั้งนำน้ำยางมาแปรรูปเป็นแผ่นเพื่อส่งขาย และเมื่อมีอายุประมาณหนึ่ง ก็ยังสามารถนำไปใช้ทำเป็นเฟอร์นิเจอร์ไม้ได้อีกอย่างหนึ่ง คุณสมบัติหลักๆ ของไม้ยางพาราคือ เป็นไม้เนื้ออ่อน เสี้ยนใหญ่ เนื้อหยาบ และมีความอ่อนตัวค่อนข้างมาก ตัดแต่งได้ง่าย แต่มีอัตราการยืดหดตัวค่อนข้างสูง ถ้าหดตัวแล้วยางจะปะทุออกมา และเนื้อไม้ยังเป็นสารอาหารของปลวกและรา การแปรรูปจึงต้องอัดน้ำยากันปลวกและอบไม้ให้แข็งแรงก่อนใช้งาน ถึงแม้ว่าไม้ยางพาราจะมีคุณสมบัติไม่เท่าไม้สักหรือไม้สะเดาเทียม แต่ลวดลายที่สวยและสีสว่างกว่า จึงได้ชื่อว่า “ไม้สักขาว” และได้รับความนิยมไม่แพ้กัน และเนื่องจากมีการปลูกกันอย่างแพร่หลายในภาคอีสานในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ยางพาราจึงเป็นไม้เมืองใต้ที่นำไปไปให้ชาวภาคอีสานได้สร้างรายได้อย่างทั่วถึง

จวง : เทพธาโรแห่งอันดามัน

By |2021-09-08T11:30:09+07:00September 23rd, 2021|หลากไม้นานาพรรณ|

ในช่วงเทศกาลถือศีลกินผัก หรือที่เรียกกันว่า “กินเจ” มักจะนำไม้ชนิดหนึ่งมาเผาในหม้อดินเพื่อให้เกิดควันแล้วนำไปตั้งไว้ตามจุดต่างๆ ทั่วบริเวณศาลเจ้า ด้วยความเชื่อที่ว่าจะทำให้ศาลเจ้าสะอาด ไม้ที่ว่านั่นก็คือ... “ไม้จวง” ครับ จวง หรือ เทพธาโร เป็นไม้ยืนต้นขนาดเล็กถึงกลาง สูงประมาณ 15-20 เมตร เปลือกไม้แตกเป็นร่องชัดเจน สีน้ำตาลเข้ม ใบเป็นใบเดี่ยว รูปรีแกมไข่ ใบค่อนข้างหนา เรียงสลับแผ่น ดอกเป็นช่อขนาดเล็กออกตามปลายกิ่ง สีขาวหรือเหลืองอ่อน มีกลิ่นหอม พบได้ในป่าดงดิบทั่วประเทศ แต่ทางปักษ์ใต้จะพบมากที่สุด โดยเฉพาะฝั่งอันดามัน ไม้จวงเป็นไม้ที่มีการใช้มานานในการทำเป็นเครื่องหอมบูชาเทพเจ้า จนถึงปัจจุบันไม้จวงก็ยังใช้เป็นเครื่องบูชาในศาลเจ้าจีนอยู่  นอกจากนั้นด้วยความหอมและเนื้อไม้ที่ละเอียด สีเหลืองอ่อนไปทางขาว จึงนิยมนำมาแกะสลักเป็นเทพเจ้าต่างๆ นอกจากนี้ ไม้จวงยังนำมาใช้เป็นยาได้หลายชนิด และสามารถนำใบมาทำเครื่องแกงสะละหมั่น (หรือมัสมั่น) แทนใบกระวานได้อีกด้วย ด้วยความที่ไม้จวงเป็นไม้ที่หอมและได้รับนิยมโดยเฉพาะด้านพิธีกรรมของคนไทยเชื้อสายจีนอย่างกว้างขวาง ไม้จวงจึงกลายเป็นไม้ที่มีคุณค่าแห่งหนึ่งของฝั่งอันดามัน และได้ชื่อว่า “เทพธาโรแห่งอันดามัน” ไปในที่สุด

ดูแลเฟอร์นิเจอร์กลางแจ้งช่วงหน้าฝน

By |2021-09-08T11:27:39+07:00September 16th, 2021|รู้ไว้ใช่ว่า ใส่บ่าแบกไม้|

หลังจากที่เรากล่าวถึงการดูแลเฟอร์นิเจอร์ในที่ร่มแล้ว เฟอร์นิเจอร์กลางแจ้งคือส่วนสำคัญอย่างมากที่จะต้องดูแลเป็นพิเศษในหน้าฝนที่ไม่ค่อยเป็นใจอยู่บ่อยๆ ในช่วงนี้ เพราะถ้าดูแลไม่ดี เฟอร์นิเจอร์ไม้ที่ใช้งานอยู่กลางแจ้งก็จะได้รับความเสียหายมากเลยทีเดียว ต่อให้เป็นเฟอร์นิเจอร์ที่ถูกออกแบบมาเพื่อป้องกันความชื้นมาแล้วก็ตาม แต่ก็ไม่ควรมองข้ามเป็นอย่างยิ่ง ไม่เช่นนั้นแล้วเฟอร์นิเจอร์เหล่านี้ก็อาจจะมีปัญหาจนทำให้คุณปวดหัวเป็นแน่แท้ การดูแลเฟอร์นิเจอร์ที่กลางแจ้งควรทำตามวิธีดังนี้ หากเป็นเฟอร์นิเจอร์ลอยตัวที่สามารถเคลื่อนย้ายได้ง่าย ควรนำเข้ามาในที่ร่ม หรือย้ายเข้ามาอยู่ใต้กันสาดหรือบริเวณที่มีหลังคาบัง เพื่อป้องกันผลกระทบจากแดดและฝน ควรกำจัดรอยคราบน้ำฝนหรือสิ่งสกปรกด้วยการใช้น้ำยาเช็ดทำความสะอาดและขัดเงา ขัดถูบริเวณที่เป็นคราบ จะช่วยให้เฟอร์นิเจอร์เงางาม แลดูเหมือนใหม่ และยังช่วยขจัดรอยขีดข่วนได้อีกด้วย การทำความสะอาดเฟอร์นิเจอร์ที่ถูกต้อง ควรใช้ไม้ปัดขนไก่ปัดฝุ่นออก แล้วใช้ผ้าเนื้อนุ่มชุบน้ำหมาดๆ เช็ดอีกครั้ง ปล่อยให้แห้ง สำหรับเฟอร์นิเจอร์ไม้เนื้อแข็ง หากมีรอยเปื้อนฝังแน่นอยู่ สามารถใช้กระดาษทรายเบอร์ละเอียดขัด ใช้น้ำผึ้งทาทับ แล้วใช้ผ้าแห้งขัดอีกครั้ง ส่วนเฟอร์นิเจอร์ไม้เนื้ออ่อน ควรใช้น้ำส้มสายชูผสมน้ำอุ่นเช็ดให้ทั่ว แล้วขัดด้วยขี้ผึ้ง ควรทาพื้นผิวเฟอร์นิเจอร์ด้วยผลิตภัณฑ์หรือน้ำยาดูแลผิวไม้โดยเฉพาะ เพื่อปกป้องสีของไม้ให้คงทน โดยใช้วิธีนำแปรงขนนุ่มจุ่มน้ำยาดูแลผิวไม้ ทาให้ทั่ว ทิ้งไว้จนแห้งสนิท แล้วจึงทาทับอีก 2 ครั้ง ปล่อยให้แห้ง แล้วจึงใช้กระดาษทรายขัด จากนั้นทาทับด้วยน้ำยาอีกครั้งเป็นอันเสร็จเรียบร้อย แต่หากใครไม่มีน้ำยาเคลือบเฟอร์นิเจอร์ อาจมองหาโลชั่นที่เหลือใช้ นำผ้าชุบน้ำหมาดๆ บีบโลชั่นใส่เพียงเล็กน้อย แล้วนำไปเช็ดเฟอร์นิเจอร์ที่ปัดฝุ่นแล้ว จะทำให้เฟอร์นิเจอร์เงางามและฝุ่นเกาะติดยากไประยะหนึ่ง และยังมีกลิ่มหอมอีกด้วย ควรทาน้ำยาขัดเงาหรือสี/สเปรย์กันน้ำป้องกันอีกชั้น

ดูแลเฟอร์นิเจอร์ในร่มช่วงหน้าฝน

By |2021-09-08T11:22:41+07:00September 9th, 2021|รู้ไว้ใช่ว่า ใส่บ่าแบกไม้|

เข้าหน้าฝนทีไร... ก็รู้สึกลำบากใจอยู่ไม่น้อย เพราะนอกจากจะต้องเก็บเสื้อผ้าและของที่ตากแดดเอาไว้แล้ว ยังต้องระวังไม่ให้ฝนสาดเข้าบ้านเวลาพายุหรือลมมรสุมเข้าอีกด้วย สิ่งหนึ่งที่หลายๆ คนมักจะไม่ได้สังเกตกันอย่างละเอียดนั่นก็คือ... เฟอร์นิเจอร์ไม้นี่แหละครับ ปกติแล้ว เฟอร์นิเจอร์ไม้ส่วนใหญ่มักจะอยู่ในที่ร่ม แต่ก็มีบางชนิดที่ใช้งานที่กลางแจ้ง (ขึ้นอยู่กับลักษณะการใช้งาน) ซึ่งโดยมากเฟอร์นิเจอร์ไม้มักจะไม่ได้ออกแบบมาเพื่อป้องกันความชื้นมากเท่าไหร่นัก จึงทำให้เฟอร์นิเจอร์ไม้ได้รับความเสียหายจากความชื้นได้ แต่เฟอร์นิเจอร์ไม้บางชนิดถูกออกแบบมาเพื่อป้องกันความชื้นด้วยใส่น้ำยากันความชื้นแล้วพ่นสี (ไม้ MDF-HDF) หรืออบไม้พร้อมใส่น้ำยากันชื้นและปลวก (ไม้อัดและไม้แท้) เพื่อการป้องกันความชื้นโดยเฉพาะ เฟอร์นิเจอร์ไม้ในร่ม ส่วนมากจะไม่ค่อยเจอแดดเจอฝน จึงไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องความชื้นมากนัก แต่ก็มีเฟอร์นิเจอร์บางชนิดที่มีความเสี่ยงต่อการโดนความชื้นเล่นงาน เช่น เฟอร์นิเจอร์ในห้องน้ำ ทำให้ต้องมีการดูแลบำรุงรักษาไม่ต่างอะไรไปจากเฟอร์นิเจอร์ที่อยู่กลางแจ้ง ส่วนวิธีการดูแลเฟอร์นิเจอร์ในร่มสามารถทำง่ายๆ ดังนี้ ใช้ไม้ปัดขนไก่หรือผ้าเนื้อนุ่ม เช็ดฝุ่นละอองและสิ่งสกปรกต่างๆ หรือผ้าหรือฟองน้ำเนื้อนุ่มชุบน้ำยาทำความสะอาดแบบอ่อนๆ เช็ดให้ทั่ว แล้วใช้ผ้าสะอาดชุบน้ำสะอาดเช็ดซ้ำอีกครั้ง ควรใช้ผ้าชุบน้ำให้พอหมาดเท่านั้น อย่าชุบจนเปียกชุ่มจนเกินไป เพราะทำจะให้เนื้อไม้เกิดความเสียหาย บวม พอง เสียรูป หรือขึ้นราได้ หากต้องการนำเฟอร์นิเจอร์ไปผึ่งแดด ควรเลือกช่วงเวลาที่แดดอ่อนๆ ไม่ควรผึ่งในที่แดดจัด เพราะจะทำให้เนื้อไม้กรอบเปราะหรือหักได้ ควรทาหรือฉีดพ่นน้ำยาป้องกันปลวก มอด มด และแมลงศัตรู ให้ทั่วชิ้นเฟอร์นิเจอร์ เพื่อป้องกันไม่ให้แมลงศัตรูมากัดกินเนื้อไม้

ฟอกสีไม้

By |2021-09-07T14:28:54+07:00September 7th, 2021|รู้ไว้ใช่ว่า ใส่บ่าแบกไม้|

ช่วยนี้ก็เพิ่งจะผ่านพ้น “ฤดูซักฟอก” ไปหมาดๆ นี่เอง ในวันนี้เราก็เลยขอกล่าวถึง “การฟอกสีไม้” กันบ้างครับ เคยสังเกตมั้ยว่า เฟอร์นิเจอร์ไม้ของคุณนั้น นับวันสียิ่งเข้มเข้าไปทุกทีๆ ซึ่งหลายต่อหลายคนที่ชื่นชอบเฟอร์นิเจอร์สีอ่อนๆ ก็คงจะไม่ค่อยชอบเฟอร์นิเจอร์แบบนี้สักเท่าไหร่นัก แต่ก็ยังมีวิธีการอย่างหนึ่งที่จะทำคืนชีพเฟอร์นิเจอร์เก่าๆ ของคุณให้ดูเหมือนใหม่ได้ด้วยการ “ฟอกสีไม้” หนึ่งในวิธีการที่จะทำให้เฟอร์นิเจอร์ของคุณกลับมาดูเหมือนใหม่ได้ การฟอกสีไม้ คือการนำไม้มากัดสีด้วยน้ำยาฟอกสี ซึ่งจะทำให้สีไม้ซีดลง เกิดเป็นสีโทนอ่อนหรือโทนสว่าง นิยมใช้กับไม้ที่มีสีเข้ม กระพี้คล้ำ ไม้เก่าเก็บ และใช้ได้ดีกับไม้ที่ยังไม่ผ่านการเคลือบสี นับว่าเป็นการสร้างมูลค่าให้กับเฟอร์นิเจอร์ไม้อย่างหนึ่งเลยทีเดียว วัสดุหลักๆ ที่ใช้กับการฟอกสีไม้คือ น้ำยาฟอกสีไม้ ซึ่งจะประกอบไปด้วยเคมี 2 ชนิดที่จะเรียกว่า “น้ำยาเบอร์ 1-2” หรือ “น้ำยาส่วน A-B” ผสมในอัตราส่วนที่เท่ากัน จากนั้นนำไปทาที่ไม้ให้ชุ่มมากๆ ทิ้งไว้ประมาณ 6-8 ชั่วโมง จากนั้นจึงทำการเช็ดล้างด้วยน้ำและน้ำยาต่างๆ ให้เรียบร้อยก่อนที่จะนำไปทำสีหรือทำเฟอร์นิเจอร์ตามความต้องการ งานฟอกสีไม้นั้น เป็นงานที่ต้องอาศัยความชำนาญและประสบการณ์ที่สูงมาก เนื่องจากเป็นงานที่อันตรายอย่างยิ่ง ด้วยน้ำยาฟอกสีไม้เป็นสารเคมีที่หากใช้อย่างไม่ระมัดระวัง จะเกิดอันตรายจนถึงชีวิตได้เลยทีเดียว ดังนั้น การฟอกสีไม้จึงควรเป็นหน้าที่ของช่างไม้ที่มีความชำนาญและประสบการณ์ที่เหมาะสมจะดีกว่าครับ

ไม้สะเดาเทียม

By |2021-09-03T09:41:56+07:00September 3rd, 2021|หลากไม้นานาพรรณ|

ไม้สะเดาเทียม ถ้าจะกล่าวถึงไม้สารพัดประโยชน์ที่กำลังมาแรงในท้องถิ่นอย่างปักษ์ใต้บ้านเราแล้ว ก็คงหนีไม่พ้นไม้สะเดาเทียมแน่นอนครับ เพราะด้วยคุณสมบัติที่ไม่แพ้กันกับไม้สักที่มีราคาสูง ประกอบกับความสวยงามของไม้สะเดาเทียม ระยะเวลาในการปลูกที่สั้น และหาง่ายได้กว่าไม้สัก จึงทำให้ความนิยมในตัวไม้สะเดาเทียมสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ลักษณะของสะเดาเทียม (Sentang) - เป็นไม้โตเร็ว มีลักษณะสูงใหญ่ เปลาขึ้นตรง - เปลือกสีเทาอมน้ำตาลหรือขาว ผิวเรียบ เปลือกข้างในสีขาว - มักมีรอยตาของกิ่งที่หลุดร่วงไปแล้ว - เนื้อไม้สีเหลืองหรือน้ำตาลอ่อน - ใบจะขึ้นเป็นกระจุกรวมที่บริเวณปลายกิ่ง เรียงเยื้องสลับกันเป็นคู่ - ใบหนาและขอบหยักเหมือนเลื่อยฟัน ผิวใบสีเขียวเป็นมัน - ดอกจะออกเป็นช่อตามง่ามใบ ดอกสีขาวอมเขียวอ่อนมีกลิ่นหอม มักจะขึ้นในช่วงต้นเดือนมีนาคม ความนิยมของต้นสะเดาเทียม - ในทางภาคใต้นิยมปลูกเพื่อคั่นเขตแดนระหว่างสวนยางพาราหรือสวนผลไม้ - เมื่อได้อายุที่เหมาะสมในการทำเฟอร์นิเจอร์ไม้คือ 30 ปี จะมีความสูงและขนาดที่เหมาะสมในการตัดโค่นเพื่อสร้างบ้านในพื้นที่ของตนเอง ส่วนที่เหลือก็จะนำไปขายหรือทำเฟอร์นิเจอร์ไม้เพื่อสร้างรายได้ในครัวเรือน การใช้ประโยชน์จากต้นสะเดาเทียม - สะเดาเทียมเป็นไม้ที่แมลงศัตรูอย่าง ปลวก มอด มด ไม่เข้ามาเจาะกิน ลายและสีสวยไม่แพ้กันกับไม้สักทอง จึงนิยมนำมาทำเฟอร์นิเจอร์ - ยอดของสะเดาเทียม ชาวบ้านนิยมนำไปบริโภคด้วยการทำน้ำพริก

ไม้แท้

By |2021-09-02T10:11:31+07:00September 2nd, 2021|รู้ไว้ใช่ว่า ใส่บ่าแบกไม้|

ไม้แท้ (Wood)เฟอร์นิเจอร์ที่คุณเลือกใช้อยู่ จะให้สวยสมจริงก็คงไม่พ้นเฟอร์นิเจอร์ที่ทำจากไม้แท้ (Wood) ซึ่งมีหลายชนิดและอายุของไม้ให้เลือกใช้กันมากมายที่บ้านเราจะใช้กันเยอะๆ ส่วนมากจะเป็นไม้สัก สน เต็ง มะค่า ยางพารา ถ้าเป็นไม้ต่างประเทศก็จะเป็นไม้บีช แอช โอ๊คเสียเป็นส่วนใหญ่ หากในทางปักษ์ใต้บ้านเราก็จะนิยมใช้ไม้สะเดาเทียม เนื่องจากนิยมปลูกคั่นเขตแดน คุณสมบัติก็ไม่ต่างจากไม้สักอีกด้วย การแปรรูปไม้- โดยมากจะใช้วิธีการแปรรูปโดยเอาไม้ท่อนมาอบน้ำยาป้องกันความชื้น เชื้อรา และแมลงศัตรูต่างๆ- ความชื้นขึ้นอยู่กับไม้แต่ละชนิด โดยมากถ้าเป็นเขตร้อนชื้นอย่างบ้านเราก็จะให้น้องมีความชื้นอยู่ที่ประมาณ 12%- นิยมตัดแบ่งเป็นนิ้วเพื่อที่จะนำไปทำงานไม้ได้หลากหลายชนิด หากนำมาต่อเป็นไม้แผ่นใหญ่จะใช้ขนาดมาตรฐานที่ 4 x 8 ฟุต (122 x 245 เซนติเมตร) ข้อดีของไม้แท้- สวยงามแบบของแท้ ได้สัมผัสกับไม้จริง- คงทนได้ทุกสภาพอากาศ (ถ้าได้ไม้ในอายุที่เหมาะสม) ข้อสังเกตของไม้แท้- มีราคาแพงกว่าไม้อัดทุกชนิด (ขึ้นอยู่กับชนิดของไม้) อาจจะหาได้ยากเพราะไม้ที่นำมาทำเป็นเฟอร์นิเจอร์ ในแต่ละชนิดส่วนมากจะต้องใช้ไม้อายุที่เหมาะสม เพื่อความแข็งแรงคงทน- ควรทาน้ำยาเคลือบเนื้อไม้อย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันเชื้อรา ปลวกและแมลงที่เป็นศัตรูกับน้อง ดังนั้น ถ้าอยากให้น้องอยู่กับคุณไปนานๆ ควรหมั่นดูแลน้องอย่างสม่ำเสมอด้วยนะครับ

ไม้อัด

By |2021-09-02T10:11:31+07:00September 2nd, 2021|รู้ไว้ใช่ว่า ใส่บ่าแบกไม้|

ไม้อัด (Plywood)เป็นไม้ชนิดหนึ่งที่นิยมใช้ทำเฟอร์นิเจอร์ค่อนข้างมาก เนื่องจากมีความแข็งแรงกว่าไม้ MDF และ HDF บางประเภท ให้ความสวยงาม สัมผัสน้องแล้วดูสมจริงเหมือนกับใช้ไม้จริง และมีความคงทนสูงน้องจะเป็นอย่างไรเดี๋ยวเราจะมาบอกกันนะ คุณสมบัติของไม้อัด (Plywood)- ทำมาจากแผ่นไม้ปอกเปลือกออก แล้วทำให้เป็นแผ่นบางแล้วอัดเป็นชั้นๆ- ใช้กาวร้อนและกาวเย็น และกระบวนการอัดตามสูตรของผู้ผลิต แล้วปิดผิวด้วยเยื่อบุไม้- มีความหนาตั้งแต่ 3-20 มิลลิเมตร จึงสามารถใช้งานได้หลากหลาย- มีหลายชนิดให้เลือก เช่น ไม้อัดยาง ไม้อัดสัก ไม้อัดบีช ไม้อัดแอช เป็นต้น- บางชนิดจะผสมยากันปลวกเพื่อป้องกันปลวกมากินไม้อีกด้วย น้องไม้อัดนิยมใช้ทำเฟอร์นิเจอร์ที่เน้นความคงทนสูง เช่น เฟอร์นิเจอร์ Built-In หรือเฟอร์นิเจอร์ที่สามารถโดนความชื้นได้ระดับหนึ่ง เช่น เฟอร์นิเจอร์ในครัว เป็นต้น และยังนำน้องมาใช้ทำไม้พื้นอย่างไม้เอ็นจิเนียร์อีกด้วยนะครับ ข้อดีของไม้อัด- มีความสวยงาม ผิวไม้แลดูสมจริง- มีความแข็งแรง คงทนกว่าไม้แผ่นปาร์ติเกิลหรือไม้ MDF-HDF ไม่บิดงอง่าย- ทนน้ำและความชื้นได้ระดับหนึ่ง- กันปลวกได้ (ถ้าใช้น้องรุ่นกันปลวก) ข้อสังเกตของไม้อัด- มีราคาแพงกว่าไม้ปาร์ติเกิลและ MDF-HDF- น้ำหนักค่อนข้างมาก ดังนั้น หากต้องการให้เฟอร์ฯ ชนิดนี้แนะนำเลือกวัสดุและการออกแบบให้สวยงาม น้องจะได้อยู่กับเราไปอีกนานๆ

ไม้ MDF-HDF

By |2021-09-02T10:11:31+07:00September 2nd, 2021|รู้ไว้ใช่ว่า ใส่บ่าแบกไม้|

ไม้เอ็มดีเอฟ-เอชดีเอฟ (MDF-HDF) เฟอร์นิเจอร์ที่ใช้งานกันโดยทั่วไป นอกจากจะทำด้วยไม้ปาร์ติเกิล (Particle Board) แล้ว ยังทำด้วยไม้เอ็มดีเอฟ (MDF) และ เอชดีเอฟ (HDF) อีกด้วย น้องสองคนนี้หน้าตายังไงเรามาดูกันเลยครับ คุณสมบัติของไม้ MDF และ HDF - ทำมาจากเศษขี้เลื่อยไม้เหมือนกับปาร์ติเกิล แต่ใช้ชนิดของไม้ที่หลากหลายกว่า - เพิ่มกระบวนการบดอัดแบบละเอียด อัดด้วยความร้อนแรงดันสูง ทำให้มีความหนาแน่นที่ 500 กก./ลบ.ม. (kg./m³) - สำหรับไม้ HDF จะมีความหนาแน่นที่ 800 กก./ลบ.ม. - มีความหนาตั้งแต่ 3-25 มิลลิเมตร จึงสามารถใช้งานได้หลากหลาย - สามารถพ่นหรือทาสีที่ผิวไม้ได้ หรือจะปิดทับด้วยแผ่นพีวีซี ไวนิล หรือกระดาษไม้ได้ตามความชอบ - ในบางรุ่นจะผสมสารกันชื้นลงไปในเนื้อไม้เพื่อป้องกันความชื้น (สังเกตได้ที่สีเขียวที่พ่นลงไปในเนื้อไม้) ข้อดีของไม้ MDF-HDF -

Go to Top