หลังจากที่เรากล่าวถึงการดูแลเฟอร์นิเจอร์ในที่ร่มแล้ว เฟอร์นิเจอร์กลางแจ้งคือส่วนสำคัญอย่างมากที่จะต้องดูแลเป็นพิเศษในหน้าฝนที่ไม่ค่อยเป็นใจอยู่บ่อยๆ ในช่วงนี้ เพราะถ้าดูแลไม่ดี เฟอร์นิเจอร์ไม้ที่ใช้งานอยู่กลางแจ้งก็จะได้รับความเสียหายมากเลยทีเดียว

ต่อให้เป็นเฟอร์นิเจอร์ที่ถูกออกแบบมาเพื่อป้องกันความชื้นมาแล้วก็ตาม แต่ก็ไม่ควรมองข้ามเป็นอย่างยิ่ง ไม่เช่นนั้นแล้วเฟอร์นิเจอร์เหล่านี้ก็อาจจะมีปัญหาจนทำให้คุณปวดหัวเป็นแน่แท้

การดูแลเฟอร์นิเจอร์ที่กลางแจ้งควรทำตามวิธีดังนี้

  1. หากเป็นเฟอร์นิเจอร์ลอยตัวที่สามารถเคลื่อนย้ายได้ง่าย ควรนำเข้ามาในที่ร่ม หรือย้ายเข้ามาอยู่ใต้กันสาดหรือบริเวณที่มีหลังคาบัง เพื่อป้องกันผลกระทบจากแดดและฝน
  2. ควรกำจัดรอยคราบน้ำฝนหรือสิ่งสกปรกด้วยการใช้น้ำยาเช็ดทำความสะอาดและขัดเงา ขัดถูบริเวณที่เป็นคราบ จะช่วยให้เฟอร์นิเจอร์เงางาม แลดูเหมือนใหม่ และยังช่วยขจัดรอยขีดข่วนได้อีกด้วย
  3. การทำความสะอาดเฟอร์นิเจอร์ที่ถูกต้อง ควรใช้ไม้ปัดขนไก่ปัดฝุ่นออก แล้วใช้ผ้าเนื้อนุ่มชุบน้ำหมาดๆ เช็ดอีกครั้ง ปล่อยให้แห้ง สำหรับเฟอร์นิเจอร์ไม้เนื้อแข็ง หากมีรอยเปื้อนฝังแน่นอยู่ สามารถใช้กระดาษทรายเบอร์ละเอียดขัด ใช้น้ำผึ้งทาทับ แล้วใช้ผ้าแห้งขัดอีกครั้ง ส่วนเฟอร์นิเจอร์ไม้เนื้ออ่อน ควรใช้น้ำส้มสายชูผสมน้ำอุ่นเช็ดให้ทั่ว แล้วขัดด้วยขี้ผึ้ง
  4. ควรทาพื้นผิวเฟอร์นิเจอร์ด้วยผลิตภัณฑ์หรือน้ำยาดูแลผิวไม้โดยเฉพาะ เพื่อปกป้องสีของไม้ให้คงทน โดยใช้วิธีนำแปรงขนนุ่มจุ่มน้ำยาดูแลผิวไม้ ทาให้ทั่ว ทิ้งไว้จนแห้งสนิท แล้วจึงทาทับอีก 2 ครั้ง ปล่อยให้แห้ง แล้วจึงใช้กระดาษทรายขัด จากนั้นทาทับด้วยน้ำยาอีกครั้งเป็นอันเสร็จเรียบร้อย แต่หากใครไม่มีน้ำยาเคลือบเฟอร์นิเจอร์ อาจมองหาโลชั่นที่เหลือใช้ นำผ้าชุบน้ำหมาดๆ บีบโลชั่นใส่เพียงเล็กน้อย แล้วนำไปเช็ดเฟอร์นิเจอร์ที่ปัดฝุ่นแล้ว จะทำให้เฟอร์นิเจอร์เงางามและฝุ่นเกาะติดยากไประยะหนึ่ง และยังมีกลิ่มหอมอีกด้วย
  5. ควรทาน้ำยาขัดเงาหรือสี/สเปรย์กันน้ำป้องกันอีกชั้น เพื่อช่วยปกป้องเนื้อไม้จากทั้งแสงแดดและฝน รวมทั้งควรทาน้ำยาป้องกันปลวก มด มอด และแมลงศัตรูด้วย

การดูแลเฟอร์นิเจอร์กลางแจ้งอาจจะไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็สามรถทำได้ไม่ยาก และหากหมั่นดูแลเป็นประจำ ก็จะทำให้เฟอร์นิเจอร์กลางแจ้งอยู่คู่กับคุณได้อีกนานเลยทีเดียว…